สิ่งแรกที่ได้ยินหลังจากเปิดเครื่อง ถิ่นที่อยู่ 3 Evilนี่คือคำว่า "การระบาดใหญ่กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์" จิล วาเลนไทน์ นางเอกของเราตื่นขึ้นมา ไปที่หน้าต่างและเห็นฝูงชนที่หวาดกลัวหลบหนีจากซอมบี้ ล้อมรอบด้วยบ้านและรถที่ถูกไฟไหม้ ในฐานะบุคคลที่หลบหนีเข้าสู่โลกในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา Animal Crossing: ฟ้าใหม่ฉันอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่ารีเมคของ RE3 ควรจะออกตอนนี้หรือไม่?
ใช่ การกระทำของ Resident Evil 3 ไม่เคยดูเหมือนอยู่ใกล้เราขนาดนี้มาก่อน ไม่ แน่นอน เรายังไม่เคยเจอซอมบี้เลย แต่บรรยากาศที่กดขี่โดยทั่วไปดูคุ้นเคยอย่างเจ็บปวด แฟนหนังสยองขวัญอาจชอบปัจจัยที่ทำให้ตกใจที่เพิ่มเข้ามาใหม่นี้ แต่ทุกคนคงคิดให้รอบคอบก่อนจะกลับไปที่ Raccoon City แต่เกี่ยวกับทุกอย่างตามลำดับ
Resident Evil 3 เป็นเวอร์ชันล่าสุดจาก Capcom ซึ่งกลับมาได้รับความนิยมอย่างมั่นใจจากซีรีส์ลัทธิมาหลายปีแล้ว การรีเมคครั้งก่อนประสบความสำเร็จอย่างรุ่งโรจน์และกลายเป็นเกมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของแฟรนไชส์ แต่สำหรับ Resident Evil 3 ไม่น่าจะได้รับความรู้สึกดังกล่าว มันเป็นความผิดของทั้งแหล่งที่มาดั้งเดิมและนักพัฒนาปัจจุบันในระดับที่น้อยกว่า
อ่าน: DOOM Eternal ทบทวน
ในขณะที่ Resident Evil 2 เป็นเกมที่เล่นสบาย ๆ และน่ากลัวกว่า ส่วนที่สามเลือกเส้นทางของภาพยนตร์ฮอลลีวูด สิ่งนี้ชัดเจนตั้งแต่นาทีแรก เมื่อนางเอกของเราพบกับกรรมตามสนอง ศัตรูของซีรีส์นี้ การไล่ล่าที่เต็มไปด้วยการระเบิดและการสบถ กลับกลายเป็นว่ามีประสิทธิภาพมาก แต่ก็ขาดน้ำหนักทางอารมณ์ของ The Last of Us แต่เธอทำให้เรารู้สองสิ่ง: Jill Valentine ไม่ใช่ใบหน้า และ Resident Evil 3 จะดังกว่ามาก
ฉันแน่ใจว่าหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่มาใหม่ซึ่งคุ้นเคยกับซีรีส์นี้จาก Resident Evil 2 อาจจะไม่พอใจกับเรื่องนี้ การสร้างใหม่ในปี 2019 นั้นเต็มไปด้วยบรรยากาศอย่างแท้จริง และตำแหน่งของมันไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นอะไรที่วิเศษมาก มีซอมบี้น้อยกว่ามาก แต่การเผชิญหน้ากับพวกมันทุกครั้งน่ากลัวจริงๆ - ถ้าเพียงเพราะฮีโร่ของเรามักไม่มีที่พึ่ง แต่ในกรณีของภาคต่อ ตัวละครมีกระสุนมากขึ้น แม้แต่มีดก็ไม่หักที่นี่อีกต่อไป จังหวะของเกมก็เร็วขึ้นมากเช่นกัน มันยังไม่ใช่หนังแอคชั่นกับ Milla Jovovich แต่มันทำให้บรรยากาศค่อนข้างรบกวน
อ่าน: Star Wars Jedi Knight: บทวิจารณ์คอนโซลของ Jedi Academy
ฉันสงสัยว่ารูปแบบการเล่นใหม่ที่ดุดันกว่าเดิมจะทำให้หลายคนผิดหวัง แต่บางคนจะชอบมากกว่านี้ ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบรู้สึกอ่อนแอ และใน Resident Evil 3 สิ่งต่าง ๆ ก็ดีขึ้นมากในเรื่องนี้ ถ้าในรีเมคแรกมันน่ากลัวจริงๆ สำหรับฉันที่จะเปลี่ยนไปเป็นทางเดินใหม่แต่ละแห่ง การพบปะกับศัตรูที่นี่ทุกๆ ครั้งก็ดูจะมากขึ้นทุกวัน เป็นผลให้เมื่อฮีโร่ของเราตาย มันไม่น่ากลัวเท่าน่ารำคาญ และกรรมตามสนอง - ภัยคุกคามหลักที่ไล่ตามฮีโร่ของเราอย่างต่อเนื่อง - ไม่น่ากลัวเท่านาย X จากส่วนที่สอง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะดูเหมือนว่าจะติดอยู่กับช่วงเวลาที่ตายตัว เขาน่ากลัวน้อยกว่าซอมบี้แบบสุ่มที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดของห้อง
ฉันจะไม่เรียก Resident Evil 3 ว่าเป็น "เกมทางเดิน" แต่อย่างใด แต่มันขาดขนาดของสถานีตำรวจเดียวกันในรุ่นก่อนอย่างแน่นอน นอกจากนี้ Jill ยังได้รับคลังอาวุธที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยให้เธอเดินไปรอบ ๆ เมืองที่ทรุดโทรมโดยไม่ต้องกลัวอะไรมาก ปริศนาก็น้อยลงเล็กน้อย แต่ก็ไม่สำคัญ อีกครั้ง ไม่น่าเป็นไปได้ที่สิ่งนี้จะทำให้ผู้เล่นที่มีประสบการณ์ประหลาดใจ - พวกเขารู้ว่าอะไรกำลังรอพวกเขาอยู่ หรือไม่?
ความจริงก็คือแทนที่จะเพิ่มสิ่งใหม่โดยพื้นฐาน Capcom ตัดสินใจตัดเนื้อหาออก ใช่ เป็นเวอร์ชันดั้งเดิมของ Resident Evil 3: Nemesis (ชื่อที่เหมาะสมกว่ามากในความคิดของฉัน) สำหรับ PlayStation มีเรื่องราวที่กว้างขวางซึ่งการตัดสินใจระหว่างคัตซีนส่งผลต่อตอนจบ อย่างไรก็ตาม ในการรีเมค ตอนจบของเรื่องได้รับการตัดสินไว้ล่วงหน้าแล้ว พูดตามตรง ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมแทนที่จะขยายเกม ผู้พัฒนาจึงตัดสินใจที่จะทำให้มันแย่กว่าแหล่งดั้งเดิมที่เก่าแก่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณคำนึงถึงกรอบเวลาที่สั้นกว่าเมื่อเทียบกับ RE2 และการขาดแรงจูงใจที่แท้จริงในการเล่นเกมซ้ำ
อ่าน: Animal Crossing: New Horizons Review - การรักษาความเป็นจริงที่ตกต่ำ
อย่างไรก็ตาม อย่าคิดว่าฉันมาที่นี่เพื่อตำหนิความแปลกใหม่อย่างสมบูรณ์ ไม่เลย: เธอไม่ได้หยุดไม่น่ากลัวหรือสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ Jill ได้ดีไซน์ใหม่ล่าสุดที่เหมาะกับเธอ พูดได้เลยว่า Raccoon City ดูดีทีเดียว แทบไม่มีอะไรจะบ่งบอกได้ว่าภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ออกฉายในปี 1999 จริงๆ ฉันไม่มีข้อตำหนิใดๆ เกี่ยวกับฝ่ายบริหารหรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับภาพ
RE Engine ยังคงเป็นเอ็นจิ้นที่ยอดเยี่ยมซึ่งได้รับการปรับให้เหมาะสมที่สุดสำหรับแพลตฟอร์มปัจจุบันทั้งหมด เมื่อเร็ว ๆ นี้ Xbox One S มักจะสะดุดไม่เพียง แต่กับผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวนมากเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลิตภัณฑ์พิเศษของตัวเองด้วย (Ori และ Will of the Wisps) แต่ Resident Evil 3 ทำงานเหมือนเครื่องจักร ภาพที่ราบรื่นและสวยงามไม่กระตุกแม้แต่สกรีนเซฟเวอร์ที่ไร้รอยต่อและแน่นอนว่าทั้งหมดนี้สร้างความประทับใจอย่างมาก เสียงยังตามหลังอยู่ไม่ไกล: นักพากย์มักจะพูดเรื่องไร้สาระทุกประเภท แต่คุณไม่ต้องการยึดติดกับการแสดงของพวกเขา และหากมีโอกาส อย่าลืมเปิดซับวูฟเฟอร์และระบบเสียงรอบทิศทาง ซึ่งจะทำให้เอฟเฟกต์การดื่มด่ำทำงานได้ดีขึ้นมาก
สุดท้าย เรามาพูดถึงการโลคัลไลเซชันกัน เกมนี้แปลเป็นภาษารัสเซียทั้งหมด แต่ฉันไม่ต้องการยกย่องงานของผู้แปล ประการแรก เนื่องจากการเซ็นเซอร์ที่เข้าใจยากซึ่งยังคงหลอกหลอนผู้เผยแพร่ 18+ อย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการให้คะแนนของผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่มีผู้ใหญ่สบถที่นี่ (น่าเสียดายที่ปรากฏการณ์บ่อยครั้ง) ในขณะที่ตัวละครในต้นฉบับกำลังดิ้นรนต่อสู้อย่างหนัก (และคุณสามารถเข้าใจพวกมันได้) ในคำบรรยายและบันทึกทุกประเภท บทสนทนาเท่านั้นที่ยังคงอยู่ สมมติว่าการแปลนั้นน่าจะมีชีวิตชีวาขึ้น